Monday, November 19, 2007

สะกดจิต


จากประสบการณ์การ ”เมา” ที่ผมได้เล่าไว้ให้ท่านผู้อ่านได้รับทราบเมื่อสองเรื่องก่อน ครั้งนี้ผมกลับมายืนยันครับว่าทุกวันนี้ผมก็ยังมีอาการเมาอยู่ จะมากจะน้อยแล้วแต่วัน และผมเคยปรึกษาแพทย์ถึงอาการเมานี้ว่ามีวิธีไหนบ้างที่จะทำให้ผมหลุดพ้นจากความทรมานที่หลีกเลี่ยงไม่ได้นี้โดยไม่ต้องพึ่งยา และคำตอบที่คุณหมอได้ให้กับผมก็คือให้ผมอดทนครับ...เหมือนที่เดาคำตอบไว้ในใจไม่มีผิด เพราะว่าการเมาเครื่องบินนี้เกิดจากความไม่เคยชินของร่างกายอย่างที่ผมกล่าวไป และต้องใช้เวลาให้ร่างกายปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมนั้น ซึ่งถ้าใช้ยาก็จะทำให้การปรับตัวของร่างกายช้าลง

แต่เท่านั้นยังไม่พอครับ ผมถามย้อนกลับถามคุณหมอว่ามีวิธีอื่นอีกมั้ย ซึ่งก็มีครับ คือการว่ายน้ำ หลังจากได้ยินคำตอบ ผมก็คิดในใจอีกรอบครับว่าถ้าว่ายน้ำแล้วหายจริงมันก็หมูๆครับ ผมจะไปแข่งทศกรีฑาเลยจะได้หายเมาไวๆ แต่มันไม่ใช่ครับ มันไม่ใช่การว่ายน้ำธรรมดา สิ่งที่คุณหมอแนะนำคือการตีลังกาใต้น้ำซึ่งให้ความรู้สึกเหมือนการเมาเครื่องบิน และเมื่อทำบ่อยๆ ก็จะชินไปเอง แต่เอาเข้าจริงลำพังจะไปว่ายน้ำก็ขี้เกียจแล้ว จะให้ไปตีลังการอีก ยิ่งสร้างความขี้เกียจให้ผมเข้าไปใหญ่

คำแนะนำของคุณหมอทำให้ความฝันของผมสลายไปเสียอย่างนั้น และในเมื่อมันต้องจำใจรับสภาพ ผมก็เลยหาวิธีแก้อาการเมาด้วยตัวเองเสียเลย ซึ่งมันไม่ต้องพึ่งยา ไม่ต้องมีความสามารถพิเศษใดๆ และไม่ต้องใช้ไสยศาสตร์มนต์ดำ มันคือการ“สะกดจิต”ตัวผมเองครับ มันสะดวกกว่าวิธีใดๆ เพียงแต่ว่ามันยากแค่นั้นเองครับ ยากพอๆ กับการฝึกนั่งสมาธิใหม่ๆ เลยล่ะ ผมลองแล้วปรากฏว่าได้ผลดีครับ พออาการมันเริ่มวูบมา ผมก็เริ่มบอกกับตัวเองว่า “ไม่เมา ไม่เมา ไม่เมา...” เชื่อมั้ยครับว่ามันหายเมาจริงๆ มันอาจจะไม่ได้ผลทุกครั้ง แต่ถึงอย่างไรผมก็ยังเชื่อมั่นในการสะกดจิตตัวเองครับ

การสะกดจิตนี้ยังสามารถประยุกต์ใช้ได้กับหลายกิจกรรมในชีวิตประจำวันครับ เพราะการทำอะไรทุกๆ อย่างมันมีส่วนประกอบหลักอยู่สองสิ่ง คือ กายกับใจ ซึ่งถ้ากายมันไหวแต่ใจมันสั่งว่าไม่ไหว มันก็จะไม่ไหวจริงๆ แต่ถ้าหากว่าเราลองเปลี่ยนให้ใจคิดว่าเรายังทำได้ เชื่อหรือไม่ครับว่าเราจะทำได้อย่างที่ใจสั่งจริงๆ ดีไม่ดีอาจจะทำได้เกินคาดด้วยซ้ำไป


ผมมองว่าการสะกดจิตตัวเองนี้ไม่ต่างอะไรไปจากพุทธศาสนสุภาษิตที่ว่า “อตฺตาหิ อตฺตโนนาโถ...ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนครับ พูดแบบง่ายๆ ก็คือไม่มีใครจะสามารถทำอะไรให้เราได้ดีและถูกใจเท่าตัวเราเอง ลองนำวิธีการที่ไม่ต้องไปรบกวนใครวิธีนี้มาลองใช้กับชีวิตประจำวันของคุณดูสิครับ แล้วคุณจะทราบถึงความสามารถของจิตเราที่โดนสะกดด้วยตัวเราเอง

7 comments:

Anonymous said...

Poppy! Just had a chance to see your blog. Never knew that you are such a good and descriptive writer. You can have your own pocket book on sale! Sorry to hear that you're still suffering from jet sick. Good luck though!

Miss u my steward friend >.<

o p u s

Susama said...

Thanks.

I guess when the number of my stories reaches 100 I'll publish my first copy!

I'll get used to my air sickness soon...I hope. Don't worry. Thanks!

Anonymous said...

โอ๊ย..อิจฉา อยากเก่งยั่งงี้บ้างจัง ทำไงดีอ่ะ แต่ก็เห็นด้วยกะคุณ opus นะคะ คุณคนเขียนเก่งจริงๆ เก่งทั้งไทยทั้งอังกฤษ และขอบคุณที่เขียนเรื่องดีๆให้อ่าน จะแอบเข้ามาอ่านเรื่อยๆ นะคะ หวังว่าคงไม่หวง และขอให้หายจากการเมาโดยเร็ววันนะคะ...อย่าลืมช่วยตอบคำถามเรื่องความดันอากาศด้วยนะคะ

Anonymous said...

สะกิดจิตตัวเองว่า สวย...สวย...สวย หวังว่าจะได้ผลมั่ง ตามมาด้วย ผอม...ผอม...ผอม :P

Keep doing the good work my dear. Seek out some of the topics that are true to our lives but hardly come across our minds until it just hits you in the first. I'd love to read that...muah

Ps. I love sarcasm. It's also your expertise, isn't it?

Anonymous said...

so many anonymouses lately naka K.P.Pop..but I'll be your loyal fans, always ha โว้ววววววววว

Susama said...

คุณ anonymous(วรรณ): ถ้าสะกดจิตตัวเองว่าสวยหรือผอมได้ก็จะดีมากครับ จะได้เป็นคนที่เห็นคุณค่าในตัวเอง หรือพูดแบบฝรั่งว่ามี Self-esteem แล้วก็มีสติในการเลือกรับประทานอาหารด้วย

--------------------

คุณหนูหมู : Agree. Many anonymous readers lately. I'm becoming popular!!! And...thanks for being my loyal fan...โว้วววว

Anonymous said...

แหม คุณเพื่อนยะ ชั้นเนี่ย self-esteem สูงจะทะลุเพดานอยู่แล้วจ๊ะ แต่ก็คงไม่เท่าคุณเพื่อนนะจ๊ะ อืม ว่าไป สะกดจิตเรื่องกินได้เนี่ย จะสุดยอดเลย แค่นี้ก็สวยจะแย่แล้ว ขอผอมหน่อยจะเป็นไร