เมื่อเป็นเช่นนี้ พี่ Purser ประจำเที่ยวบินเลยจัดเวรให้ไปพักผ่อนกัน โดยแบ่งเป็นครึ่งๆ ครึ่งแรกพักตั้งแต่เครื่องออกจนถึงครึ่งทาง ส่วนอีกครึ่งหนึ่งก็พักตั้งแต่ครึ่งทางจนถึงที่หมายของทั้งขาไปและกลับ ฟังดูแล้วเหมือนเป็นสวรรค์ดีๆ นี่เอง ไฟลท์ข้ามคืนที่ปกติต้องอดหลับอดนอน แต่กลับได้นอนพักกัน
แต่ทว่าความสุขมันเกิดขึ้นเพียงชั่วครู่ครับ หลังจากที่พี่ Purser จัดเวรพักผ่อนเสร็จไปไม่ทันขาดคำ โทรศัพท์ในห้องก็ดังขึ้น และเมื่อพี่ Purser คุยเสร็จก็ได้ความว่า มีเครื่องบินเสียที่เมืองเจนไน (Chennai) ประเทศอินเดีย ซึ่งเครื่องของผมต้องแวะรับทั้งลูกเรือและผู้โดยสารที่ตกค้างอยู่ที่นั่นกลับกรุงเทพฯ ทำให้ผู้โดยสารขากลับเกือบเต็มลำ...โถ่ เพิ่งจะดีใจกันไปหยกๆ สุดท้ายความสุขมันก็หายไปกับสายลม และเมื่อทราบดังนี้ แผนการเดินทางก็ต้องเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย กลายเป็น กรุงเทพฯ – การาจี, การาจี – เจนไน, เจนไน – กรุงเทพฯ แทนที่จะเป็น กรุงเทพฯ – การาจี และ การาจี – กรุงเทพฯ ทำให้เวลาพักผ่อนน้อยลงไป แต่ก็ไม่ถึงกับไม่มีเสียทีเดียว
ฟังดูน่าเศร้าใจ แต่ถึงยังไงซะ มันก็คืองานครับ และไม่ว่างานไหนๆ มันก็มักจะมีอะไรให้ประหลาดใจ และมีปัญหาให้แก้เฉพาะหน้าอยู่เรื่อยๆ เสมอ ถ้าคิดในแง่ดี ปัญหาเหล่านี้มีไว้เพื่อเป็นการลับคมสมองของเราไงครับ
1 comment:
เพื่อนคะ เพื่อน ฟิต มากค่ะ นับถือค่ะเพื่อน
อย่างนี้ต้องร้องดังๆว่า ว๊าววววววววววววววววววววววววววว ค่ะ
Post a Comment