สวัสดีส่งท้ายเดือนแห่งความรักครับ ในครั้งนี้ผมมีเรื่องชวนคิดชวนเข้าใจเกี่ยวกับมนุษย์เรา เป็นเรื่องใกล้ที่เราปฏิบัติกันจนเคยชิน ซึ่งก็ตามชื่อเรื่องเลยครับ...นินทา
ในหนึ่งวันที่ผ่านพ้นไป มันต้องมีบ้างสักช่วงขณะหนึ่งใช่มั้ยครับ ที่เราทุกคนต้องสัมผัสกับ การนินทา ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่นินทาเอง ได้ยินเขานินทากัน หรือแม้กระทั่งโดนนินทาเสียเอง ซึ่งกรณีหลังสุดนี้เป็นสิ่งที่เรามักจะโดนกระทำลับหลัง ไม่มีทางทราบได้ เว้นเสียแต่ว่ามันชัดเจนแบบระยะเผาขน หรือมีกบฏในวงนินทามาคาบข่าวมาฟ้องเรา
ถ้าให้ผมพูดอย่างเป็นกลางโดยไม่ได้มีอคติกับเพศใดเพศหนึ่ง จากประสบการณ์ตลอดชีวิตของผม การนินทามักพบได้บ่อยในกลุ่มสตรี (ทั้งสุภาพ และไม่สุภาพ) เนื่องจากสตรีเพศมักเก็บรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ได้ดีกว่าบุรุษเพศ ในขณะที่พฤติกรรมที่พบได้บ่อยในบุรุษเพศคือการโอ้อวด
การนินทาเป็นอาจถือได้ว่าเป็นการแสดงออกทางอารมณ์ การระบายความอึดอัดคับแค้นใจ และสันทนาการยามว่าง (ที่ไม่สร้างสรรค์)
ด้วยความอ่อนโยนและอ่อนหวานกว่าบุรุษเพศ การนินทา ถือเป็นหนทางตอบโต้การกระทำที่ขัดใจที่ง่ายและปราศจากความรุนแรงสำหรับสตรีเพศ ในขณะที่บุรุษเพศซึ่งนิยมความรุนแรงมากกว่า มักจะตอบโต้โดยการใช้กำลัง ไม่ว่าจะโดยทันที หรือสะสมความแค้นแล้วชำระรวบยอด
ในบางครั้งบุรุษเพศก็มีส่วนร่วมในการนินทา หากหัวข้อในการนินทาเป็นเรื่องโด่งดังที่ใครๆ ก็กล่าวถึง (หรือ Talk of the Town) เป็นเรื่องที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับชีวิตโดยตรง หรืออยากแสดงความคิดเห็นเพื่อแก้ไขหรือเพิ่มเติมคำครหา (ผู้อื่น) ที่กำลังดำเนินการอยู่ แต่อาจเป็นเพียงแค่ส่วนร่วมในช่วงเวลาสั้นๆ
ท้ายสุดแล้ว การนินทา เป็นหนึ่งใน โลกธรรม ๘ ตามหลักพระพุทธศาสนาที่ประกอบไปด้วย สุข-ทุกข์/ ลาภ-เสื่อมลาภ/ ยศ-เสื่อมยศ/ สรรเสริญ-นินทา ซึ่งแฝดทั้งสี่คู่นี้เป็นแปดสิ่งที่อยู่คู่มนุษย์โลกเรามาช้านาน และเป็นสิ่งที่มนุษย์เราหลายๆ คนมองข้ามไปโดยไม่รู้ตัว
ถ้าหากเราเรียนรู้ที่จะอยู่และทำความเข้าใจกับแปดสิ่งนี้ พร้อมทั้งรู้จักยับยั้งชั่งใจให้ไม่นินทา (หรือนินทาแต่พอสมควร และสมเหตุสมผล) ได้ สิ่งที่เป็นเสมือนก้อนหินก้อนดินอันแสนหนักที่อกเราต้องแบกรับไว้อาจจะแปรสภาพเป็นอากาศอันแสนเอาบาง
...
ในหนึ่งวันที่ผ่านพ้นไป มันต้องมีบ้างสักช่วงขณะหนึ่งใช่มั้ยครับ ที่เราทุกคนต้องสัมผัสกับ การนินทา ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่นินทาเอง ได้ยินเขานินทากัน หรือแม้กระทั่งโดนนินทาเสียเอง ซึ่งกรณีหลังสุดนี้เป็นสิ่งที่เรามักจะโดนกระทำลับหลัง ไม่มีทางทราบได้ เว้นเสียแต่ว่ามันชัดเจนแบบระยะเผาขน หรือมีกบฏในวงนินทามาคาบข่าวมาฟ้องเรา
ถ้าให้ผมพูดอย่างเป็นกลางโดยไม่ได้มีอคติกับเพศใดเพศหนึ่ง จากประสบการณ์ตลอดชีวิตของผม การนินทามักพบได้บ่อยในกลุ่มสตรี (ทั้งสุภาพ และไม่สุภาพ) เนื่องจากสตรีเพศมักเก็บรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ได้ดีกว่าบุรุษเพศ ในขณะที่พฤติกรรมที่พบได้บ่อยในบุรุษเพศคือการโอ้อวด
การนินทาเป็นอาจถือได้ว่าเป็นการแสดงออกทางอารมณ์ การระบายความอึดอัดคับแค้นใจ และสันทนาการยามว่าง (ที่ไม่สร้างสรรค์)
ด้วยความอ่อนโยนและอ่อนหวานกว่าบุรุษเพศ การนินทา ถือเป็นหนทางตอบโต้การกระทำที่ขัดใจที่ง่ายและปราศจากความรุนแรงสำหรับสตรีเพศ ในขณะที่บุรุษเพศซึ่งนิยมความรุนแรงมากกว่า มักจะตอบโต้โดยการใช้กำลัง ไม่ว่าจะโดยทันที หรือสะสมความแค้นแล้วชำระรวบยอด
ในบางครั้งบุรุษเพศก็มีส่วนร่วมในการนินทา หากหัวข้อในการนินทาเป็นเรื่องโด่งดังที่ใครๆ ก็กล่าวถึง (หรือ Talk of the Town) เป็นเรื่องที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับชีวิตโดยตรง หรืออยากแสดงความคิดเห็นเพื่อแก้ไขหรือเพิ่มเติมคำครหา (ผู้อื่น) ที่กำลังดำเนินการอยู่ แต่อาจเป็นเพียงแค่ส่วนร่วมในช่วงเวลาสั้นๆ
ท้ายสุดแล้ว การนินทา เป็นหนึ่งใน โลกธรรม ๘ ตามหลักพระพุทธศาสนาที่ประกอบไปด้วย สุข-ทุกข์/ ลาภ-เสื่อมลาภ/ ยศ-เสื่อมยศ/ สรรเสริญ-นินทา ซึ่งแฝดทั้งสี่คู่นี้เป็นแปดสิ่งที่อยู่คู่มนุษย์โลกเรามาช้านาน และเป็นสิ่งที่มนุษย์เราหลายๆ คนมองข้ามไปโดยไม่รู้ตัว
ถ้าหากเราเรียนรู้ที่จะอยู่และทำความเข้าใจกับแปดสิ่งนี้ พร้อมทั้งรู้จักยับยั้งชั่งใจให้ไม่นินทา (หรือนินทาแต่พอสมควร และสมเหตุสมผล) ได้ สิ่งที่เป็นเสมือนก้อนหินก้อนดินอันแสนหนักที่อกเราต้องแบกรับไว้อาจจะแปรสภาพเป็นอากาศอันแสนเอาบาง
...
และเมื่อใจเราสบาย กายเราก็เป็นสุข
**เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมเขียนขึ้นเองจากประสบการณ์ และจินตนาการของตัวผมเอง ไม่ได้พาดพิงถึงบุคคล กลุ่มบุคคล องค์กร หรือสถาบันใดๆ ทั้งสิ้นครับ**